วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557


                                          ขนมทองหยิบ


ประวัติขนมทองหยิบ          ขนมทองหยิบ เป็นขนมหวานขื้นชื่อที่ นิยมรับประทานกันอีกชนิดหนึ่ง ความหวานของบขนมทองหยิบ แพร่หลายมาถึงปัจจุบันถือเป็นหนึ่งของร่องรอยที่ชาวโปรตุเกสทิ้งไว้ ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี เดอร์ กีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ขุนนางฝรั่งผู้มีบทบาทอย่างมากในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งท้าวทองกีบม้านี่เองที่สอนให้คนไทยทำขนมเหล่านี้ “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “มารี เดอร์ กีมาร์” เกิดเมื่อพุทธศักราช 2201 แต่บางแห่งก็ว่า พุทธศักราช 2209 โดยยึดหลักกับปีที่แต่งงานกับเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เมื่อปี พุทธศักราช 2225 ซึ่งขณะนั้น มารีมีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้นเอง บิดา ชื่อ “ฟานิก” (phanick) เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมแขกเบงกอล มารดาชื่อ “อุรสุลา ยา มาดา” (Ursala Yamada) ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นผสมโปรตุเกส ที่อพยพตั้งถิ่นฐานในอยุธยา ช่วงชีวิตหนึ่งของ “ท้าวทองกีบม้า” ได้ไปรับราชการในสำนักพระราชวังตำแหน่ง “หัวหน้าห้องเครื่องต้น” ดูเครื่องเงินเครื่องทองของหลวง เป็นหัวหน้าเก็บพระภูษาฉลองพระองค์และเก็บผลไม้เสวย มีพนักงานอยู่ภายใต้บังคับบัญชาเป็นหญิงล้วน ซึ่งเธอทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยกย่องเชิดชู ระหว่างที่รับราชการนางมารีได้สอนการทำขนมหวานจำพวกทองหยอด ทองหยิบ ทองพลุ ทองโปร่ง ขนมผิง และอื่นๆ ให้กับคนไทยได้นำมาถ่ายทอดต่อมาแต่ละครอบครัวและกระจายไปในหมู่คนไทยมาจนถึงทุกวันนี้



ส่วนผสมขนมทองหยิบ
ไข่ไก่ 20 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 กก.
น้ำลอยดอกมะลิ 2.5 ถ้วย

สิ่งที่ต้องเตรียม
ถาด, ถ้วยตะไล, ช้อน,ส้อม


วิธีทำ
1.ต่อยไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาว ไข่แดง รีดเอาเยื่อออก แล้วตีไข่แดงให้ขึ้นฟู
2.ใส่น้ำตาล น้ำลอยดอกมะลิ ลงในกระทะทอง ตั้งไฟ พอเดือนและมีลักษณะข้น
3.เมื่อน้ำเชื่อมข้นได้ที่ ปิดไฟ ให้น้ำเชื่อมนิ่ง เริ่มตักไข่หยดลงทีละช้อน โดยหยอดนิ่งๆ ปล่อยไข่แดงไหลง แผ่นไข่ก็จะกลม หยอดจนเต็มกระทะ เปิดไฟ ให้น้ำเชี่อมเดือด ลดไฟลง คอยใช้ทัพพีตักน้ำเชื่อมราด พอขนมสุกฟู ใช้ส้อมตักใส่ถาดโดยอย่าให้ทับกัน พออุ่นหยิบเป็นจีบ 5 จีบ ใส่ถ้วยตะไล ทำจนหมด

**หมายเหตุ **
1. ถ้าไม่มีน้ำลอยดอกมะลิ ใช้ใบเตยต้มกับน้ำเชื่อมแทนก็ได้ เพราะช่วยดับกลิ่นคาวของไข่ได้
2. การตีไข่ ถ้าใช้เครื่องตีไข่จะสะดวกและเร็วกว่าการตีด้วยมือ
3. การแยกไข่ขาวกับไข่แดง ต้องแยกไข่ขาวออกให้หมด เพราะถ้ามีไข่ขาวก็จะทำให้ขนมทองหยิบแข็งกระด้าง ไม่น่ากิน





                                ที่อยู่ลิงก์
                             http://www.youtube.com/watch?v=Gx3gcrKvEhM
                     http://baankhanom.blogspot.com/2010/06/blog-post_02.html

ขนมสัมปันนี

                                                    
                                 ขนมสัมปันนี


         
          สวัสดีค่ะวันนี้มาเปลี่ยนแนวเป็นขนมไทยๆ กันบ้างนะคะ  เมนูคือ ขนมสัมปันนี ขนมตัวนี้ทำมาหลายครั้งมาก ฉะนั้นรูปภาพทั้งหมดนี้จะเป็นรูปที่รวบรวมจากแต่ละครั้งที่ทำมา บางภาพที่ถ่ายไว้ก็หาไม่เจอซะงั้น เอาเป็นว่าชมเท่าที่มีละกันนะ


ส่วนประกอบ
แป้งมัน 2 1/2 ถ.
หัวกะทิ 1 1/2 ถ.
น้ำตาลทราย 1ถ.

วิธีทำ
1. คั่วแป้งมันด้วยไฟอ่อนๆจนแป้งลื่นบนกะทะ(เหลือไว้สักนิดไว้ทำแป้งนวล) ยกลงใส่ในภาชนะมีฝาปิดเพื่ออบควันเทียนประมาณ3ครั้งต่อ15นาที
2. ผสมน้ำตาลทรายกับหัวกะทิตั้งไฟปานกลาง คนให้ละลาย ใส่เกลือนิดหน่อย
3. นำน้ำกะทิที่กรองแล้วตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนเป็นข้น แล้วปิดไฟคนต่อให้นขาวเหมือนนมข้นหวาน 
4. ร่อนแป้งมันที่คั่วสุกแล้วใส่ลงผสมกับนม(กะทิ) คนให้เข้ากันแบ่งแป้งกวนเพื่อใส่สีที่ชอบได้
5. ยกขึ้นตั้งไฟ คนต่อพอเหนียวข้นหนืด ดูว่าแป้งเริ่มร่อนไม่ค่อยติดกะทะก็ยกออกจากเตา คนต่อสักพัก แล้วตั้งไว้พออุ่น โรยแป้งนวลเบาๆบางๆ แล้วอัดใส่พิมพ์
6. ใช้ผ้าขาวบางคลุมแป้งที่ยังไม่ได้กดพิมพ์
ถ้าอัดพิมพ์ไม่ทัน ขนมเริ่มแห้งแข็ง หยดน้ำนิดหน่อย แล้วกวนใหม่





วีดีโอ





ที่อยู่ลิ่งก์

                                    http://www.youtube.com/watch?v=f0TRsSKYgbE